พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) 17
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) 17
![]() |
หลวงพ่อวัดปากน้ำ |
![]() |
หลวงพ่อวัดปากน้ำ |
![]() |
หลวงพ่อวัดปากน้ำ |
![]() |
หลวงพ่อวัดปากน้ำ |
ประวัติพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)
*** พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นพระภิกษุนิกายเถรวาทฝ่ายมหานิกายชาวไทย ในบรรดาหมู่ผู้ศรัทธานับถือมักเรียกท่านด้วยชื่อ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เนื่องจากท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันคือ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร) ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงในฐานะพระวิปัสสนาจารย์ผู้ฟื้นฟูและสืบทอดการปฏิบัติกรรมฐานพุทธานุสติโบราณ ที่เรียกว่า วิชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
*** เกิด วันที่10 เดือนตุลาคม พ.ศ.2472*** มรณภาพ วันที่3 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 อายุ 74พรรษา
*** อุปสมบท เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2449 พรรษา 52
*** วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี
*** สังกัด มหานิกาย
*** ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
ชาติภูมิ
*** พระมงคลเทพมุนี มีนามเดิมว่า สด มีแก้วน้อย เกิดเมื่อวันที่10 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2427 ตรงกับวันศุกร์ แรม 6ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ฉศก จ.ศ.1246 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ.บ้านสองพี่น้อง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายเงินและนางสุดใจ มีแก้วน้อย มีพี่น้องร่วมมารดาบิดา 5คน***เริ่มเรียนหนังสือกับพระภิกษุผู้เป็นน้าชาย ณ.วัดสองพี่น้อง แล้วมาอยู่ ณ.วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ในความปกครองของพระอาจารย์ทรัพย์ ปรากฏว่าเป็นผู้สามารถเรียน อ่านภาษาขอมได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ด้วยความวิริยะอุตสาหะเพื่อสร้างฐานะให้มั่นคง
*** เมื่อท่านอายุได้ 14ปีโยมบิดาได้ถึงแก่กรรมลงท่านจึงรับภาระดูแลการค้าแทน ท่านฉลาดในการปกครอง ลูกเรือต่างก็รักนับถือท่านและเนื่องจากท่านเป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน อาชีพการค้าจึงเจริญขึ้นโดยลำดับ จนปรากฏในยุคนั้นว่า เป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง วันหนึ่งเมื่อท่านนำเรือเปล่ากลับบ้านพร้อมเงินรายได้จากการขายข้าวผ่านลัดคลองเล็กซึ่งชาวบ้านเรียกว่า คลองบางอีแท่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุมท่านนึกถึงความตายขึ้นมา และได้อธิษฐานจิตในขณะนั้นว่า ขอเราอย่าได้ตายเสียก่อนเลย ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชไปจนตลอดชีวิต
*** การหาเงินเลี้ยงชีพนั้นลำบาก บิดาของเราก็หามาอย่างนี้ ต่างไม่มีเวลาว่างกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบหาให้มั่งมี ก็เป็นคนชั้นต่ำ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เข้าหมู่เพื่อนบ้านก็อับอาย ไม่เทียมหน้าเขา บุรพชนต้นสกุลก็ทำมาอย่างนี้เหมือนกัน จนถึงบิดาเราและตัวเราในบัดนี้ ก็คงทำอยู่อย่างนี้ ก็บัดนี้บุรพชนทั้งหลายได้ตายไปหมดแล้ว แม้เราก็จักตายเหมือนกัน เราจะมัวแสวงหาทรัพย์อยู่ทำไม ตายแล้วเอาไปไม่ได้ บวชดีกว่า ท่านบอกว่าเริ่มอธิษฐานมาตั้งแต่อายุ 19 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเล่าต่อไปว่า เมื่อตกลงใจบวชไม่สึกแล้ว จิตคิดเป็นห่วงมารดาเกิดขึ้น จึงขะมักเขม้นทำงานสะสมทรัพย์ เพื่อให้มารดาเอาไว้ใช้เลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิต
อุปสมบท
*** เดือนกรกฎาคม 2449 ขณะมีอายุย่างเข้า 22ปี ท่านได้บรรพชาอุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีฉายาว่าจนฺทสโร พระอาจารย์ดี วัดประตูสาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินยานุโยค (เหนี่ยง อินฺทโชโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ คู่สวดทั้งสองรูปอยู่วัดเดียวกัน คือ วัดสองพี่น้อง ในการเรียนด้านคันถธุระในพรรรษาแรก ท่านสงสัยอยากรู้คำแปลคำว่า อวิชฺชาปจฺจยา ซึ่งไม่มีใครทราบ ท่านจึงเกิดความดำริที่จะไปเรียนคันถธุระต่อที่กรุงเทพฯ*** เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านจึงเริ่มปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากับพระอนุสาวนาจารย์นับแต่วันบวช เมื่อบวชแล้วพอรุ่งขึ้นอีกวัน หลวงพ่อก็เริ่มลงมือปฏิบัติพระกรรมฐานต่อกับพระอาจารย์เนียม วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้จำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง 1 พรรษาเมื่อออกพรรษาที่วัดสองพี่น้องแล้ว ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อศึกษาด้านคันถธุระต่อ ในสมัยนั้นนิยมใช้หนังสือขอมที่จารลงในใบลาน
*** ขณะที่ท่านเรียนทางด้านคันถธุระอยู่นั้น เมื่อถึงวันพระขึ้น 8ค่ำ และขึ้น 15ค่ำ ท่านก็มักไปแสวงหาครูสอนฝ่ายปฏิบัติสมถะ วิปัสสนาอยู่เสมอๆ โดยการศึกษากับพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในสำนักต่างๆ ท่านได้ไปศึกษากับท่านเจ้าคุณสังวรานุวงษ์ เอี่ยม วัดราชสิทธาราม วัดพลับ ท่านพระครูฌานวิรัติ (โป๊) วัดพระเชตุพน} พระอาจารย์สิงห์ วัดละครทำ จนได้ผลการปฏิบัติเป็นที่พอใจของพระอาจารย์ เมื่อได้ศึกษาภาวนาวีธีจนมีความรู้ความเข้าใจ ทั้งจากพระอาจารย์ทั้งจากพระไตรปิฎกและคัมภีร์ต่างๆ มีมูลกัจจายน์ ธรรมบททีปนี และสารสังคหะ เป็นต้น ท่านจึงแสวงหาที่หลีกเร้น มีความวิเวกเป็นสัปปายะต่อการปฏิบัติธรรม ฉะนั้น ในพรรษาที่12 จึงได้กราบลาท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เข้ม ธมฺมสโร อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อไปจำพรรษา ณ.วัดโบสถ์บน ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ด้วยรำลึกถึงคุณของเจ้าอาวาสรูปก่อนที่ให้ยืมพระคัมภีร์ใบลานมาเล่าเรียน
ปฏิบัติได้วิปัสสนา
*** ในวันขึ้น 15ค่ำ เดือน10 ปี พ.ศ.2460 เมื่อพระสดกลับจากบิณฑบาตแล้ว ท่านก็เข้าไปนั่งสมาธิเจริญภาวนาในพระอุโบสถ ขณะนั้นเวลาประมาณ 8โมงเศษๆ ท่านก็เริ่มทำความเพียร โดยตั้งใจว่าหากยังไม่ได้ยินเสียงกลองเพล จะไม่ยอมลุกจากที่ เมื่อตั้งใจดังนั้นแล้ว ก็หลับตาภาวนา สัมมา อะระหัง ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งความปวดเมื่อย และอาการเหน็บชาค่อยๆ เพิ่มทีละน้อยๆ และมากขึ้นจนมีความรู้สึกว่า กระดูกทุกชิ้นแทบจะระเบิดหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ จนเกือบจะหมดความอดทน ความกระวนกระวายใจก็ตามมา*** เอ...แต่ก่อนเราไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลย พอตั้งสัจจะลงไปว่า ถ้ากลองเพลไม่ดังจะไม่ลุกจากที่ เหตุใดมันจึงเพิ่มความกระวนกระวายใจมากมายอย่างนี้ ผิดกว่าครั้งก่อนๆ ที่นั่งภาวนา เมื่อไรหนอ กลองเพลจึงจะดังสักที คิดไปจิตก็ยิ่งแกว่งและซัดส่ายมากขึ้น จนเกือบจะเลิกนั่งหลายครั้ง แต่เมื่อได้ ตั้งสัจจะไปแล้วท่านก็ทนนั่งต่อไป ในที่สุดใจก็ค่อยๆ สงบลงทีละน้อย แล้วรวมหยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ ในใจชุ่มชื่นเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก ความปวดเมื่อยหาย ไปไหนไม่ทราบ ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงกลองเพลก็ดังขึ้น
*** วันนั้นท่านมีความสุขตลอดทั้งวัน ดวงธรรมขั้นต้นซึ่งเป็นดวงใสก็ยังเห็นติดอยู่ตรงศูนย์กลางกายตลอดเวลา ในช่วงเย็น หลังจากได้ร่วมลงฟังพระปาฏิโมกข์กับเพื่อนภิกษุ ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถแล้วตั้งสัตยาธิษฐานว่า แม้เลือดเนื้อจะ แห้งเหือดหายไป เหลือแต่หนัง เอ็น กระดูก ก็ตามที ถ้านั่งลงไปแล้ว ไม่บรรลุธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเห็น จะไม่ยอมลุกขึ้นจากที่จนตลอดชีวิต เมื่อตั้งจิตอธิษฐานเสร็จ จึงเริ่มนั่งและตั้งจิตอ้อนวอนแด่พระพุทธเจ้าว่า
*** ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดข้าพระพุทธเจ้า ทรงประทานธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้อย่างน้อยที่สุดแลง่ายที่สุด ที่พระองค์ได้ทรงรู้แล้วแก่ข้าพระพุทธเจ้า ถ้าข้าพระพุทธเจ้ารู้ธรรมของพระองค์แล้วเป็นโทษแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์อย่าพระราชทานเลย ถ้าเป็นคุณแก่ศาสนาของพระองค์แล้ว ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณา โปรดพระราชทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์รับเป็นทนายศาสนาในศาสนาของพระองค์ไปจนตลอดชีวิต
*** เมื่อท่านตั้งความปรารถนาแล้ว ก็เริ่มนั่งขัดสมาธิเข้าที่ภาวนา พอดีนึกถึงมดขี้ที่อยู่ในระหว่างช่องแผ่นหินซึ่งกำลังไต่ไปมา จึงหยิบขวดน้ำมันก๊าด เอานิ้วมือจุ่ม เพื่อจะเขียนวงให้รอบตัวกันมดรบกวน แต่พอจรดนิ้วที่พื้นหินยังไม่ถึงครึ่งวง ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ชีวิตสละได้ แต่ทำไมยังกลัวมดขี้นอยู่เล่า นึกละอายตัวเอง จึงวางขวดน้ำมันลง แล้วนั่งเข้าที่ได้ประมาณครึ่งหรือค่อนคืน เมื่อใจหยุดเป็นจุดเดียวกัน ก็มองเห็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ ซึ่งยังติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายจากเมื่อเพล ยิ่งมองยิ่งใสสว่างมากขึ้น และขยายใหญ่ขนาดเท่าดวงอาทิตย์ ดวงใสยังคงสว่างอยู่อย่างนั้น โดยที่ท่านก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะทุกสำนักที่ท่านได้ศึกษามาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน
*** ขณะที่ใจหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากจุดกลางดวงนั้นว่า มัชฌิมาปฏิปทา แต่ขณะที่เสียงนั้นดังแผ่วขึ้นมาในความรู้สึก ก็เห็นจุดเล็กๆ เรืองแสง สว่างวาบขึ้นมาจากกลางดวงนั้น เสมือนจุดศูนย์กลางของวงกลม ความสว่างของจุดนั้นสว่างกว่าดวงกลมรอบๆ ท่านมองเรื่อยไป พลางคิดในใจว่า นี่กระมังทางสายกลาง จุดเล็กที่เราเพิ่งจะเห็นเดี๋ยวนี้อยู่กึ่งกลางพอดี ลองมองดูซิจะเกิดอะไรขึ้น
*** จุดนั้นค่อยๆ ขยายขึ้นและโตเท่ากับดวงเดิม ดวงเก่าหายไป ท่านมองไปเรื่อยๆ ก็เห็นดวงใหม่ลอยขึ้นมาแทนที่ เหมือนน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาแทนที่กันนั่นแหละ ต่างแต่ใสยิ่งขึ้นกว่าดวงเดิม ในที่สุดก็ เห็นกายต่างๆ ผุดซ้อนกันขึ้นมาจนถึงธรรมกาย เป็นพระปฏิมากร เกตุดอกบัวตูม ใสบริสุทธิ์ยิ่งกว่า พระพุทธรูปบูชาองค์ใด เสียงพระธรรมกาย กังวานขึ้นมาในความรู้สึกว่า "ถูกต้องแล้ว" เท่านั้นแหละ ความปีติสุขก็เกิดขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ท่านถึงกับรำพึงออกมาเบาๆ ว่า
*** เออ มันยากอย่างนี้นี่เอง ถึงได้ไม่บรรลุกัน ความเห็น ความจำ ความคิด ความรู้ ต้องรวมเป็นจุดเดียวกัน เมื่อหยุดแล้วจึงดับ เมื่อดับแล้วจึงเกิด ถ้าไม่ดับ ก็ไม่เกิด นี่เป็นของจริง ของจริงต้องอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนนี้ เป็นไม่เห็นเด็ดขาด
*** การค้นพบวิชชาธรรมกายอันเป็นของจริงของแท้ เป็นทางบรรลุธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงบรรลุแล้ว เป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งมาก ท่านจึงมาคำนึงว่า
*** คมฺภีโรจายํ ธรรมเป็นของลึกถึงเพียงนี้ ใครจะไปคิดคาดคะเนเอาได้ พ้นวิสัยของความตรึกนึกคิด ถ้ายังตรึกนึกคิดอยู่ก็เข้าไม่ถึง ที่จะเข้าถึง ต้องทำให้รู้ตรึก รู้นึก รู้คิดนั้น หยุดเป็นจุดเดียวกัน แต่พอหยุดก็ดับ แต่พอดับแล้วก็เกิด ถ้าไม่ดับแล้วไม่เกิด ตรองดูเถิดท่านทั้งหลาย นี้เป็นของจริง หัวต่อมีเป็นอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนดังนี้ ก็ไม่มีไม่เป็นเด็ดขาด
*** ท่านยังคงนั่งเจริญภาวนาทบทวนอย่างนี้ต่อไปอีกประมาณ 30นาที ก็เกิดภาพในสมาธิ เป็นภาพของวัดบางปลาปรากฏขึ้น ความรู้สึกขณะนั้นเหมือนตัวท่านอยู่ที่วัดนั้น ทำให้คิดว่าธรรมที่รู้เห็นได้ยากนั้น ที่วัดบางปลาจะต้องมีผู้ที่สามารถบรรลุธรรมได้แน่นอน ภาพของวัดบางปลาจึงปรากฏขึ้นในสมาธิ
*** นับแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านได้ทุ่มเทชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาอย่างเต็มที่ เพื่อค้นคว้าหาที่สุดแห่งธรรม ยิ่งค้นก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปทุกที ท่านปฏิบัติอยู่อย่างนี้อีกประมาณเดือนเศษ จนออกพรรษา เมื่อรับกฐินแล้ว ก็ลาเจ้าอาวาสวัดบางคูเวียงไปพักอยู่ที่วัดบางปลาม้า เพื่อไปสอนธรรมที่ท่านได้รู้ได้เห็นแล้ว ท่านสอนอยู่ประมาณ 4เดือน มีพระภิกษุที่สามารถปฏิบัติธรรมตามอย่างท่านได้ 3 รูป คือ พระภิกษุสังวาลย์ พระภิกษุแบน และพระภิกษุอ่วม รวมทั้งคฤหัสถ์อีก 4คน
*** จากนั้น พรรษาที่ 13ท่านได้พาพระภิกษุสังวาลย์ไปจำพรรษาที่วัดสองพี่น้อง ที่วัดนี้มี พระภิกษุได้เห็นธรรมอีก 1รูป คือ พระภิกษุหมก หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางไปพักที่วัดประตูสาร จังหวัด สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดของพระอุปัชฌาย์ของท่าน ขณะนั้นได้มรณภาพแล้ว มีประชาชนมาขอให้ท่านแสดงธรรมหลายครั้ง ท่านขัดไม่ได้ จึงยอมแสดงพระธรรมเทศนา เนื่องจากท่านมีความสามารถในการเทศน์สอน จึงเป็นที่พอใจแก่ประชาชนมาก ต่อมามีผู้มาขอร้องท่านให้แสดงธรรมอีกเป็นครั้งที่สอง ท่านรู้ว่าถ้าเทศน์อีกจะทำให้เจ้าอาวาสไม่พอใจ แต่ท่านต้องการจะสงเคราะห์ญาติโยมจึงตัดสินใจแสดงธรรมอีก เมื่อท่านแสดงธรรมจบ ท่านก็เข้าไปกราบลาเจ้าอาวาส แล้วเดินทางกลับทันที เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน โดยท่านให้เหตุผลว่าจะพาพระไปอยู่กรุงเทพฯ ท่านพำนักอยู่ที่วัดนี้เป็นระยะเวลารวม 4 เดือน
*** เมื่อออกจากวัดประตูสาร ท่านได้ไปรับพระภิกษุหมก พระภิกษุปลดและพระภิกษุพล พระครูโสภณราชวรวิหาร วัดเบญจมบพิตรฯ ลาสิกขาบทแล้ว และพระภิกษุฮั้ว วัดป่าพฤกษ์ ที่วัดสองพี่น้อง กลับลงมากรุงเทพฯ ไปอยู่ที่สำนักเรียนวัดพระเชตุพนฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมต่อไป
***ในสมัยนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ต้องเผชิญกับความไม่เข้าใจของสังคมและพระเถรานุเถระในวงการพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการกล่าวอ้างถึงคำว่า ธรรมกาย อยู่มิได้ขาด ซึ่งคำว่า ธรรมกาย นั้น มีหลักฐานปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก หลักศิลาจารึก และคัมภีร์ต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณมาก่อนแล้ว หากเพียงแต่ว่ามิได้รับการขยายความจากพระวิปัสนาจารย์ท่านอื่นๆ เพราะส่วนมากท่านเหล่านั้นไม่ชำนาญภาษาบาลีในระดับสูง จึงแนะนำการปฏิบัติที่รับต่อมาจากครูบาอาจารย์ถ่ายทอดให้ตนเท่านั้นฯ
เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
*** แม้ว่าท่านเป็นภิกษุผู้รักชีวิตอิสระและสันโดษ ชอบออกธุดงค์แสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อปฏิบัติธรรม แต่ท่านก็ไม่เคยนิ่งดูดายต่อส่วนรวม ไม่ว่าท่านจะไปพักอยู่ที่ใด ท่านมักจะทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นในที่แห่งนั้นเสมอ ประกอบกับท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถในหลายๆ ด้าน จึงเป็นเหตุให้พระเถระผู้ใหญ่ในวงการคณะสงฆ์ คือ ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก เผื่อน ติสฺสทตฺตเถร วัดพระเชตุพนฯ พระอาจารย์ของท่าน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ได้เล็งเห็นถึงคุณสมบัติที่ดีของท่าน ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎกเห็นว่า ท่านสามารถทำประโยชน์ให้กับพระศาสนาได้อีกมาก จึงมอบหมายให้ท่านย้ายไปจำพรรษาที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อเป็นเจ้าอาวาส โดยในช่วงแรกให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสไปก่อน เมื่อท่านรับคำแล้ว จึงได้แต่งตั้งให้เป็นพระครูสมุห์ฐานานุกรมของพระศากยยุติยวงศ์*** เมื่อถึงวันครบกำหนด ท่านเดินทางจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยเรือยนต์หลวงที่กรมการศาสนาจัดถวาย เพื่อเป็นเกียรติแก่พระอารามหลวง มีพระเถรานุเถระจากวัดพระเชตุพนฯ เดินทางมาส่ง และมีพระภิกษุติดตามท่านมาด้วย 4รูป ทางด้านวัดปากน้ำ มีพระเถระผู้ใหญ่ในอำเภอนั้น พร้อมทั้งญาติโยมจำนวนมากมารอต้อนรับคณะของท่าน
*** เมื่อมาถึงวัดปากน้ำ ท่านพบว่าวัดอยู่ในสภาพกึ่งวัดร้าง ภายในวัดมีสภาพทรุดโทรม ในสมัยนั้น ที่นี่เป็นสวนพลู สวนหมาก สวนมะพร้าว สวนเงาะ มีศาลาที่เก่ามาก มีโรงครัวเล็กๆ กุฏิก็มีไม่กี่หลัง เป็นกุฏิเล็กๆ ยกพื้น ปลูกด้วยไม้สัก พักได้รูปเดียว อยู่ตามร่องสวน พระภิกษุที่อยู่ก่อนมีจำนวน 13รูป มักย่อหย่อนทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ทำให้ท่านต้องพบอุปสรรคที่ไม่คาดคิดมาก่อนตั้งแต่วันแรกที่มาถึง แต่ท่านก็ไม่ได้ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม ท่านกลับมีความคิดที่จะฟื้นฟูวัดปากน้ำให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นอีกด้วย
*** เมื่อท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำใหม่ๆ ท่านกล่าวว่า "สร้างคนนั้นสร้างยาก เรื่องเสนาสนะไม่ยาก ใครมีเงินก็สร้างได้ แต่สิ่งสำคัญต้องสร้างคนก่อน" ดังนั้น ในเบื้องต้นท่านมุ่งไปที่ความประพฤติของพระภิกษุ สามเณรในวัด ท่านต้องการให้ทุกรูปมีข้อวัตรปฏิบัติที่ดี ประพฤติตนตามพระธรรมวินัย จึงเรียกประชุมพระภิกษุ สามเณรที่อยู่มาก่อนทั้งหมดและให้โอวาทว่า
*** เจ้าคณะอำเภอส่งมาเพื่อให้รักษาวัดและปกครองตักเตือนว่ากล่าวผู้อยู่วัดโดยพระธรรมวินัย อันจะทำให้วัดเจริญได้ต้องอาศัยความพร้อมเพรียง และเห็นอกเห็นใจกัน จึงจะทำความเจริญได้ ถิ่นนี้ไม่คุ้นเคยกับใครเลย มาอยู่นี้เท่ากับถูกปล่อยเกาะ โดยไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะต่างไม่รู้จักกัน แต่ก็มั่นใจว่า ธรรมที่พวกเราปฏิบัติตรงต่อพระพุทธโอวาท จะประกาศความราบรื่นและรุ่งเรืองให้แก่ผู้มีความประพฤติเป็นสัมมาปฏิบัติ ธรรมวินัยเหล่านั้นจะกำจัดอธรรมให้สูญสิ้นไป
*** พวกเราบวชกันมาคนละมากๆ ปี ปฏิบัติธรรมเข้าขั้นไหน มีพระปาฏิโมกข์เรียบร้อยอย่างไร ทุกคนทราบความจริงของตนได้ ถ้าเป็นไปตามแนวพระธรรมวินัยก็น่าสรรเสริญ ถ้าผิดพระธรรมวินัยก็น่าเศร้าใจ เพราะตนเองก็ติเตียนตนเอง
*** ได้เคยพบมาบ้างแม้บวชตั้งนานนับเป็นสิบ ๆ ปี ก็ไม่มีภูมิจะสอนผู้อื่น จะเป็นที่พึ่งของศาสนาก็ไม่ได้ ได้แต่อาศัยศาสนาอย่างเดียว ไม่ทำประโยชน์ให้เกิดแก่ตนและแก่ท่าน ซ้ำร้ายยังทำให้พระศาสนาเศร้าหมองอีกด้วย บวชอยู่อย่างนี้เหมือนตัวเสฉวน จะได้ประโยชน์อะไรในการบวช ในการอยู่วัด
*** ฉันมาอยู่วัดปากน้ำ จะพยายามตั้งใจประพฤติให้เป็นไปตามแนวพระธรรมวินัย พวกพระเก่าๆ จะร่วมก็ได้ หรือว่าจะไม่ร่วมด้วยก็แล้วแต่อัธยาศัย ฉันจะไม่รบกวนด้วยอาการใดๆ เพราะถือว่าทุกคนรู้สึกผิดชอบด้วยตนเองดีแล้ว ถ้าไม่ร่วมใจก็ขออย่าได้ขัดขวาง ฉันก็จะไม่ขัดขวางผู้ไม่ร่วมมือเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่ แต่ต้องช่วยกันรักษาระเบียบของวัด คนจะเข้าจะออกต้องบอกให้รู้ ที่แล้วมาไม่เกี่ยวข้อง เพราะยังไม่อยู่ในหน้าที่ จะพยายามรักษาเมื่ออยู่ในหน้าที่
สมณศักดิ์เป็นพระครูสมุห์
*** วันที่12 เดือธันวาคม พ.ศ.2464 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสมณธรรมสมาทาน*** วันที่4 เดือนธันวาคม พ.ศ.2492 เลื่อนพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระภาวนาโกศลเถร
พ.ศ.2494 ได้รับพระราชทานพัดยศเทียบเปรียญ
*** วันที่5 เดือนธันวาคม พ.ศ.2498 เลื่อนเป็นพระราชาคณะเสมอชั้นราชที่ พระมงคลราชมุนี สุทธศีลพรตนิเวฐ เจษฎาทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
*** วันที่5 เดือนธันวาคม พ.ศ.2500 เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระมงคลเทพมุนี ศรีรัตนปฏิบัติ สมาธิวัตสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
อาพาธ - มรณภาพ
*** หลวงพ่อวัดปากน้ำได้บอกแก่ศิษยานุศิษย์เมื่ออายุได้ 70ปี ว่าอีก 5ปีข้างหน้าท่านจะละสังขาร ต่อมาอีกราว 3ปี ท่านเริ่มอาพาธเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2ปีเศษ แม้ว่าจะอาพาธ ท่านก็มิได้แสดงอาการรันทดใจใดๆ เลย ท่านยังคงต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ เวลาจะลุกจะนั่งท่านไม่พอใจให้ใครไปช่วยเหลือ ท่านพอใจทำเองผู้อื่นคอยตามเพื่อช่วยเหลือเวลาท่านเซไปเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่3 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 เวลา 15.05 นาฬิกา พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ.ตึกมงคลจันทสร วัดปากน้ำภาษีเจริญ สิริอายุได้ 74ปี 3เดือน 24วัน นับอายุพรรษาได้ 53 พรรษา
เขียนวันที่19 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2564
โทร 0983699890 เบอร์ไลน์ 0805855611 Line ID vaya07 Facebook พรชัย เลาวะยานนท์
นายพรชัย เลาวะยานนท์
ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี เพชรเกษม2 พุทธมณฑลสาย3 ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 020 - 1 - 33934 - 0
ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 หนองแขม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 191 - 0 - 68235 - 7
ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 หนองแขม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 191 - 0 - 68235 - 7
ร้านพรชัยศูนย์พระแท้ 1023/67 หมู่บ้านศรีเพชร ซอย21 ถนนเพชรเกษม106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร10160
คลิกที่ ที่อยู่ดูสถานที่ตั้งร้านพรชัยพระแท้
คลิกที่ ที่อยู่ดูสถานที่ตั้งร้านพรชัยพระแท้
✱พระทุกองค์ที่ระบุราคาไว้ในร้านออนไลน์นี้ ยังไม่คิดรวมราคาค่าบริการส่ง EMS อีก 50 บาท✱
![]() |
G1609 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)หลังพาน เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ อุดมสมบูรณ์ พูนผล มั่นคง รุ่นพันล้านทับทวี แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1611 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำเหรียญรุ่นซื้อที่ดิน ปี2534 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1617 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1618 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ ที่ระลึกในการถวายภัตตาหาร แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1619 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ ที่ระลึกเสด็จถวายผัาพระกฐิน วันที่3 เดือนพฤจิกายน พ.ศ.2512 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1622 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ ปี2525 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() | |
|
![]() |
G1625 เข็มกลัดพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)หลังวิมาน เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1627 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1628 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1629 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1630 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1631 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1632 เหรียญพระพุทธ ดวงสมภพของพระมงคลมงเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1633 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ สมโภชชนมายุครบ 100ปี แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1634 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)หลังวิมาน เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ ปี2525 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1635 ลอกเก็ตพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)หน้าหลัง เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากน้ำ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1636 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดบุณยประดิษฐ์ ที่ระลึกผูกพัทธสีมา วันที่่4 - วันที่12 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1637 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1638 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ ปี2535 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1639 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1640 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1641 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
![]() |
G1642 เหรียญพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) เนื้อทองแดง วัดปากน้ำ กันภัย แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 600 บาท |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น