พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) 13

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) 13

รัชกาลที่3

รัชกาลที่3

รัชกาลที่3
ประวัติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่3
                   *** พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทรฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (วันที่31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2331 - วันที่2 เดือนเมษายน พ.ศ.2394) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่3 แห่งราชวงศ์จักรี
                  *** พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
 และพระองค์แรกที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเรียม (ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระศรีสุลาลัย เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันจันทร์ แรม 10ค่ำ เดือน4 ปีมะแม เวลาค่ำ 10.30 นาฬิกา (สี่ทุ่มครึ่ง) ตรงกับวันที่31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2330 (นับแบบปัจจุบัน พ.ศ.2331) เสวยราชสมบัติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 9 ขึ้น 7ค่ำ ปีวอก ซึ่งตรงกับวันที่21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2367 สิริดำรงราชสมบัติได้ 26ปี 255วัน
                *** ทรงมีเจ้าจอมมารดาและเจ้าจอม 56ท่าน มีพระราชโอรสธิดาทั้งสิ้น 51พระองค์ เสด็จสวรรคตเมื่อวันพุธ เดือน5 ขึ้น 1ค่ำ ปีกุน โทศก จุลศักราช1212 เวลา 7ทุ่ม 5บาท ตรงกับวันที่ 2 เดือนเมษายน พ.ศ.2394 สิริพระชนมพรรษา 63ปี 2วัน
               *** ครองราชย์ วันที่21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2367 - วันที่2 เดือนเมษายน พ.ศ.2394 (26ปี 255วัน)
              *** ราชาภิเษก
 วันที่1 เดือนสิงหาคมพ.ศ.2367 พระราชวังหลวง ก่อนหน้า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ถัดไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชทายาท สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
            *** พระภรรยา
 56 ท่าน
            *** พระราชบุตร 51 พระองค์
            *** 
วัดประจำรัชกาลคือวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
ราชวงศ์ จักรี
           *** พระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
          *** พระราชมารดา สมเด็จพระศรีสุลาลัย
          *** พระราชสมภพ 31 มีนาคม พ.ศ. 2331
          *** พระราชวังเดิม เมืองธบุรี อาณาจักรรัตนโกสินทร์
          *** สวรรคต 2 เมษายน พ.ศ. 2394 (63 พรรษา)
          *** พระราชวังหลวง เมืองพระนคร อาณาจักรรัตนโกสินทร์

ตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 3 รูปปราสาท สอดคล้องกับพระนามเดิม "ทับ" ผูกตรานี้ขึ้นในวโรกาสกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100ปี
                  *** พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประสูติแต่สมเด็จพระศรีสุลาลัย เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ที่31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2330 (นับแบบปัจจุบันพ.ศ. 2331) ณ.พระราชวังเดิม ตรงกับรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในขณะที่พระองค์ประสูตินั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยดำรงพระอิสริยยศที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระองค์จึงมีสกุลยศชั้นหม่อมเจ้าพระนามว่า หม่อมเจ้าชายทับ จนกระทั่ง สมเด็จพระบรมชนกนาถได้รับอุปราชาภิเษกขึ้นเป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในปีพ.ศ.2349 พระองค์จึงมีพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าชายทับ
                 *** เมื่อสมเด็จพระราชชนกได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่2 ใน พ.ศ.2352 พระองค์จึงได้เลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นพระองค์เจ้าชั้นเอก ออกพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าชายทับ จนปี พ.ศ.2356 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรม เป็น พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์
                *** เมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เสด็จเถลิงถวัลย์ครองราชสมบัติแล้ว ทรงออกพระนามเต็มตาม
พระสุพรรณบัฏว่า พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร์ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวไสย สมุทัยดโรมน สากลจักรวาลาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทราธาธิบดี ศรีสุวิบูลย คุณอถพิษฐ ฤทธิราเมศวร ธรรมิกราชาธิราช เดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมินทรปรมาธิเบศร โลกเชษฐวิสุทธิ มงกุฏประเทศคตา มหาพุทธางกูร บรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว นับเป็น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 6
                  *** ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เฉลิมพระปรมาภิไธยใหม่ เป็น พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐ มหาเจษฎาบดินทร สยามินทรวิโรดม บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ออกพระนามโดยย่อว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
                 *** ในวันที่11 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2459 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้เฉลิมพระปรมาภิไธยอย่างสังเขปว่า พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาเจษฎาธิบดินทร์ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3
                 *** เมื่อครั้งที่ทรงกำกับราชการ
กรมท่า (ในสมัยรัชกาลที่2) ได้ทรงแต่งสำเภาบรรทุกสินค้าออกไปค้าขายในต่างประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นในท้องพระคลังเป็นอันมาก พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์ว่า เจ้าสัว เมื่อรัชกาลที่2 เสด็จสวรรคต มิได้ตรัสมอบราชสมบัติแก่ผู้ใด ขุนนางและพระราชวงศ์ต่างมีความเห็นว่าพระองค์ (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฏาบดินทร์) ขณะนั้นมีพระชนมายุ 37พรรษา ทรงรอบรู้กิจการบ้านเมืองดี ทรงปราดเปรื่องในทางกฎหมาย การค้าและการปกครอง จึงพร้อมใจกันอัญเชิญครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 3
พระราชกรณียกิจ
                  *** พระองค์ทรงปกครองประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงเสริมสร้างกำลังป้องกันราชอาณาจักร โปรดให้สร้างป้อมปราการตามปากแม่น้ำสำคัญ และหัวเมืองชายทะเล
ด้านความมั่นคง
                 *** พระองค์ได้ทรงป้องกันราชอาณาจักรด้วยการส่งกองทัพไปสกัดทัพของ
เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ไม่ให้ยกทัพเข้ามาถึงชานพระนครและขัดขวางไม่ให้เวียงจันทน์เข้าครอบครองหัวเมืองอีสานของสยาม นอกจากนี้ พระองค์ทรงประสบความสำเร็จในการทำให้สยามกับ ญวนยุติการสู้รบระหว่างกันเกี่ยวกับเรื่องเขมร โดยที่สยามไม่ได้เสียเปรียบญวนแต่อย่างใด
ด้านการคมนาคม
                  *** ในรัชสมัยของพระองค์ใช้ทางน้ำเป็นสำคัญ ทั้งในการสงครามและการค้าขาย คลองจึงมีความสำคัญ มากในการย่นระยะทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง จึงโปรดฯให้มีการขุดคลองขึ้น เช่น 
คลองบางขุนเทียน คลองบางขนาก และ คลองหมาหอน
ด้านการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
                  *** พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก และได้ทรงสร้างพระพุทธรูปมากมายเช่น พระประธานในอุโบสถ วัดสัทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
 วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปรินายก และวัดนางนอง ทรงสร้างวัดใหม่ขึ้น 3 วัด คือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วัดเทพธิดารามวรวิหารและวัดราชนัดดารามวรวิหาร ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ วัดเก่าอีก 35 วัด เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งสร้างมาแต่รัชกาลที่1 วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร วัดราชโอรสรามราชวรวิหารเป็นต้น
ด้านการศึกษา
                   *** ทรงทำนุบำรุงและสนับสนุนการศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้
 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงศาธิราชสนิท แต่งตำราเรียนภาษาไทยขึ้นเล่มหนึ่งคือ หนังสือจินดามณี โปรดเกล้าฯ ให้ผู้รู้นำตำราต่าง ๆ มาจารึกลงในศิลาตามศาลารอบพุทธาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ปั้นตั้งไว้ตามเขามอและเขียนไว้ตามฝาผนังต่าง ๆ มีทั้ง อักษรศาสตร์ แพทยศาสตร์อักษรศาสตร์ศาสตร์แพทยศาสตร์พุทธศาสนศึกษาโบราณคดี ฯลฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่วิชาการสาขาต่าง ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของกรุงสยาม
ด้านสังคมสงเคราะห์
                  *** พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎร ด้วยมีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ไม่ทรงสามารถจะบำบัดทุกข์ให้ราษฎรได้ หากไม่เสด็จออกนอกพระราชวัง เพราะราษฎรจะร้องถวายฏีกาได้ต่อเมื่อพระคลังเวลาเสด็จออกนอกพระราชวังเท่านั้น จึงโปรดให้นำ
กลองวินิจฉัยเภรีออกตั้ง ณ.ทิมดาบกรมวัง ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อราษฎรผู้มีทุกข์จะได้ตีกลองร้องถวายฎีกาไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อให้มีการชำระความกันต่อไป โดยพระองค์จะคอยซักถามอยู่เนื่อง ๆ ทำให้ตุลาการ ผู้ทำการพิพากษาไม่อาจพลิกแพลงคดีเป็นอื่นได้
                 *** ในรัชสมัยของพระองค์ได้มี
มิชชันนารีชาวอเมริกันและ ชาวอังกฤษเดินทางเข้ามาเผยแพร่ ศาสนาคริสต์เพิ่มมากขึ้น หนึ่งในจำนวนนี้คือศาสนาจารย์ นายแพทย์แดน บีช บรัดเลย์ หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม "หมอบรัดเลย์" ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ และการฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคและการทำผ่าตัดขึ้นเป็นครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้หมอบรัดเลย์ยังได้คิดตัวพิมพ์ อักษรไทยขึ้น (ปีพ.ศ.2379) ทำให้มีการพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรกโดยพิมพ์คำสอนศาสนาคริสต์เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่26 เดือนตุลาคม พ.ศ.2379 ต่อมาปีพ.ศ.2385  หมอบรัดเลย์พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
                   *** ในด้านการ
 หนังสือพิมพ์ ฉบับแรกในสมัยรัชกาลที่3 หมอบรัดเลย์ได้ออกหนังสือพิมพ์แถลงข่าวรายปักษ์เป็นภาษาไทย ชื่อ บางกอกรีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) มีเรื่องสารคดี ข่าวราชการ ข่าวการค้า ข่าวเบ็ดเตล็ด ฉบับแรกออกเมื่อวันที่4 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2387 
                **** หนังสือบทกลอนเล่มแรกที่พิมพ์ขายและผู้เขียนได้รับค่า
 ลิกสิทธิ์ คือ นิราศลอนดอน ของหม่อมราโชทัย (หม่อนราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร โดย หมอบรัดเลย์ ซื้อกรรมสิทธิ์ไปพิมพ์ในราคา 400 บาท เมื่อวันที่15 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2404  และตีพิมพ์จำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2404
ด้านการค้ากับต่างประเทศ
                *** พระองค์ทรงสนับสนุนส่งเสริมการค้าขายกับต่างประเทศ ทั้งกับ 
ชาวเอเชียและ ชาวยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้ากับจีนมาตั้งแต่เมื่อครั้งพระองค์ทรงดำรงพระอิสสริยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ส่งผลให้ พระคลังสินค้ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ มีการแต่งสำเภาทั้งของราชการ เจ้านาย ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ และพ่อค้าชาวจีนไปค้าขายยังเมืองจีนและประเทศใกล้เคียง รวมถึงการเปิดค้าขายกับมหาอำนาจตะวันตกจนมีการลงนามในสนธิสัญญาระหว่างกันคือ สนธิสัญญาเบอร์นี พ.ศ. 2369 และ 6 ปีต่อมาก็ได้เปิดสัมพันธไมตรีกับสหรัฐอเมริกาละมีการทำสนธิสัญญาต่อกันใน พ.ศ.2375 นับเป็นสนธิสัญญาฉบับแรกที่สหรัฐอเมริกาทำกับประเทศทางตะวันออก ส่งผลให้ไทยได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก
ด้านศิลปกรรม
               *** พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสงขรณ์พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามจนแล้วเสร็จ และทรงมีรับสั่งให้สร้างเรือสำเภาก่อด้วยอิฐใน วัดยานนาวา เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่าเรือสำเภานั้นมีรูปร่างลักษณะอย่างไร เพราะทรงเล็งเห็นว่าภายหน้าจะไม่มีการสร้างเรือสำเภาอีกแล้ว
               *** สำหรับวรรณกรรม พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตจารึกวรรณคดีที่สำคัญ ๆ และวิชาแพทย์แผนโบราณลงบนแผ่นศิลา แล้วติดไว้ตามศาลารายรอบพระอุโบสถ รอบพระมหาเจดีย์บริเวณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาหาความ
เหตุการณ์สำคัญ
              *** 
พ.ศ. 2367 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 57 พรรษา ครองราชย์ได้ 15 ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดพิธีให้อุปราชาภิเษกพระองค์เจ้าอรุโณทัยขึ้นเป็นที่  กรมพระราชวังบวรสถานมงคล
โปรดเกล้าฯ ให้ส่งกองทัพไทยไปช่วยอังกฤษรบพม่า
                *** พ.ศ.2368 เฮนรี เบอร์นี
  ขอเข้ามาทำสัญญาค้าขาย
               *** 
พ.ศ. 2369 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้: ลงนามในสัญญา เบอร์นี เจ้าอนุวงศ์เป็นกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรฯ เป็นแม่ทัพใหญ่ยกไปปราบ กำเนิดวีรกรรม ท้าวสุรนารี(คุณหญิงโม) และโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพหน้าเป็นเจ้าพระราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายก
               *** พ.ศ.2370 เริ่มสร้าง
พระสมุทรเจดีย์
              ***  
พ.ศ. 2371 ร้อยเอกเจมส์โลว์ จัดพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรก มิชชันนารีอเมริกันเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในเมืองไทย
               ***
 พ.ศ.2372 เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) จับเจ้าอนุวงศ์ จัดส่งลงมากรุงเทพมหานคร ได้โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็น เจ้าพระยาบดินทรเดชา ที่สมุหนายก
กำเนิดสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย
              *** โปรดเกล้าให้ทำการสังคายนาเป็นภาษาไทยทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามหลายแห่ง และสร้างวัดใหม่ คือวัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดา วัดเฉลิมพระเกียรติ และวัดพระเชตุพนฯลฯได้ตั้งโรงเรียนหลวง (วัดพระเชตุพน) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสอนหนังสือไทยแก่เด็กในสมัยนี้ และได้ถือกำเนิดนิกายธรรมยุติขึ้น โดยพระวชิรญาณเถระ (เจ้าฟ้ามงกุฏ) ขณะที่ผนวชอยู่ได้ทรงศรัทธาเลื่อมใสในจริยาวัตรของพระมอญ ชื่อชาย ฉายา พุทฺธวํโส จึงได้ทรงอุปสมบทใหม่ เมื่อ พ.ศ.2372 ได้ตั้งคณะธรรมยุตขึ้นในปี พ.ศ. 2376 แล้วเสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร และตั้งเป็นศูนย์กลางของคณะธรรมยุติ พ.ศ.2373พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งให้ เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นว่าที่สมุหพระกลาโหม
              *** พ.ศ.2374 ทำการบูรณะวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใช้เวลา 16ปีในการสร้าง เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพระราชอาณาจักร
              *** พ.ศ.2375 แอนดรูว์ แจ็กสัน ประะานธิบดีสหรัฐอเมริกา 
 ส่งเอ็ดมันต์ โรเบิร์ต เข้ามาขอเจริญพระราชไมตรีทำการค้ากับไทย
              *** 
พ.ศ. 2376 เกิดกบฏญวน โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ผู้สำเร็จราชการเป็นแม่ทัพใหญ่ไปรบ
               *** พ
.ศ. 2377 ออกหวย ก.ข. เป็นครั้งแรก ญวนได้ส่งพระอุไทยราชามาปกครองเขมร
                *** พ.ศ.2378 เกิดภาวะเงินฝืดเคือง
                *** พ.ศ.2380 หมอบรัดเลย์ คิดตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้หมอหลวงไปหัดปลูกฝีกับ
หมอบรัดเลย์
                 *** พ.ศ.2381
เกิดกบฎหวัดหมาดหลี ที่หัวเมืองไทรบุรี
                ***  พ.ศ.2382 ทรงประกาศห้ามสูบฝิ่น เพื่อส่งเสริมศีลธรรมในบ้านเมือง และ มีการเผาฝิ่น และ โรงยาฝิ่น พร้อม มีการปราบอั้งอั้งยี่ซึ่งค้าฝิ่น เหล่านั้น
               *** พ.ศ.2385 หมอบรัดเลย์ พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
              *** พ.ศ.2386 เกิดสุริยุปราคาต็มดวงขึ้นในวันที่21 เดือนธันวาคม 
               ***  พ.ศ. 2386 แนวคราสมืดพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง กรุงเทพฯเห็นเป็นชนิดบางส่วน 82%
           *** พ.ศ.2389 ญวนขอหย่าทัพกับ 
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร
           *** พ.ศ.2390 ทรงอภิเษกให้นักองค์ด้วงเป็น 
สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี ครองประเทศกัมพูชา
            *** พ.ศ.2391 ญวน ขอเจริญพระราชไมตรีดังเดิม กองทัพ
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กลับกรุงเทพมหานคร
            *** พ.ศ.2392 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้
กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และ เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) ปราบอั้งยี่ ที่ ฉะเชิงเทรา
เกิดอหิวาตกโรคระบาด มีคนตายมากกว่า 30,000คน ซึ่งรวมถึงเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
            *** พ.ศ.2393 อังกฤษ และสหรัฐฯ ขอแก้สนธิสัญญา
           ***  พ.ศ.2394 เสด็จสวรรคต เมื่อ วันที่2 เดือนเมษายน พ.ศ.2394  รวมพระชนมพรรษาได้ 64 พรรษา ดำรงอยู่ในราชสมบัติ 27 ปี
วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้
           *** คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่31 เดือนมีนาคมของทุกปีเป็น วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า หรือ วันเจษฎาบดินทร์ เป็นวันสำคัญของชาติ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และเห็นชอบให้ให้ถวายพระราชสมัญญาว่า “พระมหาเจษฎาราชเจ้า แปลว่า พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่
พระบรมราชอิสริยยศและพระเกียรติยศ
            *** หม่อมเจ้าชายทับ (วันที31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2330 - พ.ศ.2349) พระบรมราชอิสริยยศ
            *** พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าชายทับ (พ.ศ.2349 - วันที่7 เดือนกันยายน พ.ศ.2352)
            *** พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าชายทับ (วันที่7 เดือนกันยายน พ.ศ.2352 -  พ.ศ.2356)
             *** พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (พ.ศ.2356 - วันที่21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2367)
             *** พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทรฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (วันที่21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2367 - วันที่11 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2459)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 6
               *** พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาเจษฎาธิบดินทร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (วันที่11 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2459 - สมัยรัชกาลที่7)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 7
               *** พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทรฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมัยรัชกาลที่7 - พ.ศ. 2540)
ภายหลังการสวรรคตในรัชกาลที่ 9
               *** พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทร สยามินทรวิโรดม บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า (พ.ศ.2540 - ปัจจุบัน)
พระราชสมัญญา
             *** พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาต่าง ๆ เช่น ในปี พ.ศ.2541 
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้ถวายพระราชสมัญญาว่าพระมหาเจษฎาราชเจ้า และได้ใช้เป็นสร้อยพระนามสืบมาจนปัจจุบัน ต่อมา พ.ศ.2551 คณะรัฐมนตรีมีมติถวายพระราชสมัญญาว่าพระบิดาแห่งการค้าไทย พระบิดาแห่งการพาณิชย์นาวีไทย และในปีพ.ศ.2558 ถวายพระราชสมัญญาว่าพระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย (ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่16 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2558 ) 
เขียนวันที่17 เดือนกรกฏาคม พ.ศ.2564
โทร 0983699890 เบอร์ไลน์  0805855611  Line ID vaya07 Facebook พรชัย เลาวะยานนท์
นายพรชัย เลาวะยานนท์
ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี เพชรเกษม2 พุทธมณฑลสาย3 ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 020 - 1 - 33934 - 0
ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 หนองแขม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 191 - 0 - 68235 - 7  
✱พระทุกองค์ที่ระบุราคาไว้ในร้านออนไลน์นี้ ยังไม่คิดรวมราคาค่าบริการส่ง EMS อีก 50 บาท✱
G1201 เหรียญรัชกาลที่3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว)หลังพระศรีสักยมุนี เนื้อทองแดง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารร่วมสมโภชนกรุงรัตนโกสินทร์ 200ปี ปี2525 ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 600 บาท
G1202 เหรียญพระนอน (พระพุทธไสยาสน์)หลังรัชกาลที่3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) เนื้อกะไหล่ทอง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) รุ่นปฎิสังขรณ์ พระพุทธไสยาสน์ เฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) วันที่31 เดือนมีนาคม พ.ศ.2530 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 600 บาท


ความคิดเห็น