แม่ชีหวานใจ ชูกร 36

ประวัติแม่ชีหวานใจ ชูกร
**** แม่ชีหวานใจ ชูกร เป็นบุตรคนที่4 ในจํานวนพี่นัอง คน ในวัยเด็กได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวในเรื่อง การทําบุญ ให้ทาน รักษาศีล ตักบาตรทุกเช้า คุณแม่และลูกๆอาศัยอยู่กับคุณยาย ส่วนคุณพ่อไปๆ มาๆ มักเอาอาหารครั้งละมาก ๆ มาให้ครอบครัว มีข่าว ปลาเค็ม ปลาย่าง ปลาเป็นก็มีปลาหมอ เนื่องจากคุณยายมีศรัทธาในศาสนารักษาศีล 5 ไม่ฆ่าสัตว์มีชีวิตมาทําอาหาร หลังจากคุณพ่อกลับไป คุณยายก็สั่งให้ปล่อยปลาทุกตัวแต่ไม่บอกให้คุณพ่อรู้ เพราะกลัวว่าจะทําร้ายจิตใจอยู่กั บคุณยาย ตั้งแต่จําความได้อายุ 4 - 5 ขวบ ใกล้ชิดกับคุณยายทําให้ ซึมซับคําสอนของคุณยายเรื่องการให้ พระสวดมนต์ ทําความดีรักษาศีล ห้ามทําบาป ก่อนนอนก็จะสอนให้รู้จักไหว้พระสวดมนต์ แผ่เมตตา บ้านอยู่ริมน้ำ เวลาเช้าคุณยายจะใส่บาตรพระภิกษุประมาณร้อยองค์ทุกวัน หลังจากใส่บาตรแล้วก็แจกทานอาหารอีกต่างหาก ที่เพิงร้านบริเวณหน้าบ้าน อาหาร มีทั้งข้าวแกง ข้าวต้มกุ๊ย ข้าวต้มหัวใช้โป๊ บัวลอย - ลอดช่อง ขนมประกิม มีคนมาคอย รับทาน พายเรือมามาแวะจอดทานข้าวต้ม แต่คนที่ทานอาหารแล้ว ก็กลับนินทาคุณ ยายเจ้าของบ้านตามธรรมดาของชาวโลก พอได้ยินรู้สึกโกรธมาก เข้าไปต่อว่า ก็ถูก คุณยายดุห้ามไม่ให้พูดคําหยาบ เป็นบาป สอนว่าต้องเคารพอ่อนน้อมผู้ใหญ่ ต้องมีเมตตา มีความรักคนอื่นเหมือนญาติไม่ใช้ญาติ ก็ต้องช่วยเหลือเหมือนญาติ ให้กลัว บาป ทําความดีเล่าเรื่องนรก - สวรรค์ ว่าถ้าทําดีก็จะไปสวรรค์ คนทําชั่วจะไม่ได้ ไป สวรร์ แต่จะตกนรกไปเกิดเป็นสัตว์นรก ส่วนผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นผู็มีบุญมาแต่ อดีตชาติ (แม่ชีหวานใจชูกร สัมภาษณ์ วันที่6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549)
**** ในขณะนั้นยังไม่เข้าใจในคําสอนเรื่องศาสนา ไม่รู้จักว่าบุญคืออะไร หน้าตาเป็น อย่างไร เนื่องจากคุณยายไม่ได้อธิบายให้ฟัง เข้าใจหรือคิดเอาเองว่า นรกอยู่ใต้ดิน สวรรค์อยู่บนฟ้า โรงเรียนยังใช่ ปฏิทินตามจันทรคติไม่มีวันเสาร์ - อาทิตย์ ปิดวันโกนและวันพระ วันโกนไปโรงเรียน ครึ่งวัน วันพระก็จะไปวัด เป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบเห็นคนอื่นถูกรังแก หลังจากพ่อแม่กลับ จากส่งลูกที่โรงเรียนแล้ว เด็กหญิงหวานใจได้ เห็นเด็กนักเรียนโตแกล้งเด็กเล็กกว่า คิดว่าการแกล้ง กันเป็นบาป จึงเป็นกรรมการเวลาที่เด็กนักเรียนทะเลาะกัน เข้าไปห้ามและมักถูกครูทําโทษ ถูกตี หลายๆ ครั้ง แม้ว่าจะเจ็บมือแต่ก็มักจะเป็นกรรมการเสมอ หลังจบ ป.4 อายุ 12ปี คุณยายไม่ให้ เรียนต่อเพราะเด็กผู้หญิงจะไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนหนังสือมากนักอายุประมาณ 11ปี - 12ปี กําลังจะ เรียนต่อ สมัยก่อนนี้ลูกผู้หญิงไม่ให้เรียนมาก คุณยายบอกว่าไม่ต้องเรียนต่อ โดยมากคุณยายจะ สอนให้ไหว้พระสวดมนต์ ทําความดี ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต คุณแม่ ก็ศรัทธาหลวงพ่อวัดปากน้ำ นอกจากจะได้รับการปลูกฝังในเรื่อง การทําบุญรักษาศีลแล้ว เด็กหญิงหวานใจได้เห็น คนร้องไห้ เพราะคนที่รักตายจากไป ไม่อยากให้คนในครอบครัวเสียชีวิต แต่ต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต กะทันหัน การได้พบกับความตา ทําให้สะเทือนใจ พร้อมกับมีคําถามในใจเรื่องโลกนี้โลกหน้าว่า ทําไมคนเราเกิดมาต้องตาย
1. สาเหตุของการบวช - หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว คุณแม่มีศรัทธาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และวิชชาธรรมกายมาก ว่าผู้ได้ ธรรมกายนอกจากจะช่วยคนที่เจ็บป่วย มีทุกข์ในภพชาตินี้แล้ว ยังสามารถส่งบุญไปให้ ผู้ตายในภพอื่นๆอีกด้วยชอบ มาทําบุญที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ โดยแจวเรือมาจาก จังหวัดสมุทรสงคราม นํามะพร้าว น้ำตาล อาหารมาเลี้ยงพระประจําทุกปีหลวงพ่อแนะนําคุณแม่ ว่าหากมีลูกเล็กๆ ให้เอามาเรียน วิชชาธรรมกายเด็กจะกําหนดดวงแก้วได้เร็ว ผู้ใหญ่จะเห็นดวงแก้วช้าเพราะว่าใจไม่ค่อยสงบ ผู้ได้ธรรมกายจะมีความพิเศษ คือมีสมบัติภายใน เรียกว่ามีอริยทรัพย์ ช่วยตัวเองได้มีหลักมีที่พึ่งแล้ว ใครมีทุกข์ร้อน มีเรื่องมาปรึกษาก็ช่วยผู้อื่นได้ เด็กหญิงหวานใจฟัง คุณแม่เล่าเรื่องวิชชาธรรมกายก็ศรัทธา อยากเห็นดวงแก้ว สนใจจะเรียนธรรมกายที่วัดปากน้ำบ้างแต่คุณแม่อนุญาตให้ลูกมาวัดทีละคน จึงขออนุญาตมาวัดปากน้ำเป็นลูกคนแรก คุณแม่พามาพบหลวงพ่อสด ล่องเรือค้างคืนนอนในเรือ 2 คนมาจอดหน้าวัด ซึ่งยังเป็นสวนร่มครึ้ม เวลาเลี้ยงพระเสร็จแล้ว หลังฉันเพล บ่ายโมงตรง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จะทําสมาธิด้วย วิชชาธรรมกายที่เรือนไม้ ตรวจสอบว่าวันนี้ผู้มาทําบุญได้บุญมากไหม ตรวจดูที่ใจว่าใจสงบ บ้างไหม หลวงพ่อเน้นที่ใจ ให้กําหนดดวงแก้ว ซ่อนกายในธาตุทั้ง 4 หน้าธาตุน้ำ หลังธาตุไฟ ซ้ายธาตุลม ขวาธาตุดิน ศูนย์กลางกาย เอาใจไปจับที่เหนือสะดือสองนิ้วศูนย์กลางกายเป็นอากาศธาตุให้ กําหนดตรงนั้นให้มีดวงแก้วใส ทําสมาธิตามที่ท่านสอน ได้เห็นดวงธรรมและวิชชาธรรมกาย หลังจากนั้นหลวงพ่อสด วัดปากน้ำได้ขอกับคุณแม่ (แม้น) ว่า ลูกคนนี้ขอนะหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จะให้ช่วยทําวิชชาปราบ มาร พักอยู่กับแม่ชีผู้ใหญ่ ต่อมาคุณแม่มาปลูกกุฏิ ปฏิบัติธรรมด้วยถวายกุฏิให้หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลังจาก กําหนดดวงแก้วและสามารถทําวิชชาธรรมกายชํานาญแล้ว หลวงพ่อให้บวชชี พ.ศ.2495 อายุ 18 ปี ย้ายไปพักอยู่ในโรงงานทําวิชชา
2. หน้าที่ - แม่ชีหวานใจ มีหน้าที่ทําวิชชาภายในโรงงานทําวิชชาตามเวรที่ได้ รับมอบหมาย ภายในโรงงานทําวิชชาจะมีเตียงไม้เล็กๆ รูปละ 1เตียง วางเฉพาะของใช้ที่จําเป็นเท่านั้น เวลา กลางคืนต้องกางมุ่ง นั่งสมาธิทําวิชชาตามเวรที่ได้ รับมอบหมาย แม่ชีธรรมกายเน้นการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดปริญญา ซึ่งเป็นความรู้ ทางธรรม เปรียบเทียบความรู้ทางโลกกับความรู้ ทางธรรมว่า แตกต่างกัน ความรู้ทางโลกเป็นความรู้เรื่องของวิชาการ เช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นรูปธรรม ที่มองเห็นและสามารถจับต้องได้ซึ่งเป็นของหยาบ เกิดอัตตาอันนําไปสู่ สมมุติในขณะที่ความรู้ทาง ธรรมเป็นการเรียนทางพุทธศาสตร์เป็นความรู็เฉพาะตัว เมื่อปฏิบัติไปแล้วจะได้รู้เฉพาะตัวว่าตัว สมมติไม่มีแม้ความแตกต่างระหว่าง เพศหญิงหรือชายเป็นเพียงสมมุติมีแต่ธาตุรู้ซึ่งไม่มี ความแตกต่างกัน เป็นอจินไตย
3. สถานภาพและบทบาท สถานภาพแม่ชีธรรมกายสูงกว่าแม่ชีอื่นๆ อัตลักษณ์ ของแม่ชีธรรมกายจะแตกต่าง ไปจากแม่ชีอื่น ๆ แม่ชีหวานใจอธิบายว่า บุญมี 3 อย่าง คือ บุญอย่างหยาบ อย่างกลาง และอย่างละเอียด หมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญาแม่ชีธรรมกายได้บุญละเอียด จากการปฏิบัติธรรม มีจิตบริสุทธิ์ เพราะได้ ฝึกฝนสมาธิขัดเกลากิเลส ได้สติปัญญาอันบริสุทธิ์จากพระพุทธเจ้า เพื่อกําจัดความโกรธ โลภ หลง ให้ไม่มี มีตัวอัตตา มีหน้าที่ต่อสู้กับมาร คําว่ามารคือกิเลส อาสวะ โลภ โกรธ หลง มีอัตตา ยึดว่าจริง การทําวิชชา คือการสร้างอาวุธที่จะปราบมารด้วยการสร้างบารมีเริ่มต้นต้องสร้างทาน คือการให้ก่อน เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ การรักษาศีลเป็นตัวปกติ ต่อมาก็คือเนกขัมมะ ธรรมกาย คือ สติปัญญาอันบริสุทธิ์จากพระพุทธเจ้า นอกจากจะช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วยังสามารถช่วยคน อื่นได้ด้วย สถานภาพแม่ชีธรรมกายแตกต่างกับแม่ชีโรงครัวและศาลา สามารถทําประโยชน์ทั้ง ตนเองและผู้อื่นเพราะได้ศึกษาวิชชาธรรมกายซึ่งเป็นพลังจิตบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า หลวงพ่อสอนวิชชาธรรมกายละเอียดลึกซึ้ง ให้ดูตัวเอง อย่าไปดูคนอื่น ดีก็เป็น อาจารย์เรา ไม่ดีก็เป็นอาจารย์เรา เป็นคนทดสอบตัวเรา แต่ถ้าคนเรามีหลัก มีที่พึ่ง แล้ว ใครด่าใครว่า เราให้อย่างเดียว เป็นอภัยทาน เรียกว่าอามิสบูชา เป็นอามิสทาน หรือวัตถุทาน ต่อมาให้ธรรมทาน แล้วก็ต้องมีอุเบกขา ถ้าช่วยเหลือไม่ได้ก็อย่าไปทํา ร้ายจิตใจคนอื่น ทุกคนมีเหตุผลของตนเอง ศาสนาสอนเรื่องชีวิต คุณพ่อ คุณแม่ให้ ชีวิต ครูบาอาจารย์ นําพาชีวิต มนุษย์เกิดมาจึงต้องศึกษาธรรม ธรรมกายก่อนอื่นก็ ช่วยตัวเองได้ช่วยตัวเองได้ก่อน มีสมบัติภายใน เขาเรียกว่าเป็นอริยทรัพย์ มีหลักมีที่ พึ่งแล้ว ใครมีทุก์ร้อน มีเรื่องมาปรึกษาก็ช่วยเขาได้ (แม่ชีหวานใจ ชูกร สัมภาษณ์ วันที่ 6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549) เรียนธรรมศึกษาตรีควบคู่ กับปฏิบัติธรรม ขณะกําลังศึกษาธรรมศึกษาตรีเตรียม ตัวจะสอบก็ถูกหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ สั่งให้ไปสอนวิชชาธรรมกายที่ วัดคลองโพธิ์เจริญ ตำบลท่าทราย จังหวัดราชบุรี ตอนนั้นโรงเรียนปริยัติธรรม (ภาวนานุสนธิ์) ยังไม่ได้สร้าง เป็นเพิงอยู่ หลวงพ่อใช่ให้ ไปสอนอุโบสถ ผู้ที่มารักษาอุโบสถ บ้านนอกเขาจะมารักษาอุโบสถประจํา สาเหตุที่ ไปนี่ก็คือกึ่งพุทธกาล คนที่มางานกึ่งพุทธกาลก็ได้ยินกิติศัพท์หลวงพ่อวัดปากน้้ำ ว่า แก้โรคเก่ง แกเป็นโรคปวดหัวเข่า รักษาไม่หาย แกจะนอนปวด ก็มาอธิษฐานหลวงพ่อ สมัยหลวงพ่ออยู่ หน้าวัดมีเรือ มีเต็นรักษาโรค ธรรมกายก็จะมาแก้โรค แกก็มา รักษา บอกถ้าหายแกก็ศรัทธา แกก็มาหาคนที่ได้วิชชาธรรมกาย แกถามว่า คนได้ ธรรมกายมีไหม จะเชิญไปสอนที่วัดตามบ้านนอก สมัยฉันก็มีเจ้จันทร์ (แม่ชีจันทน์ ขนนกยูง) วัดธรรมกาย เขาเป็นรุ่นพี่ เป็นผู้ใหญ่ หลวงพ่อก็ชี้ที่เราว่า เอ็งไป เราก็ใจ หาย ตอนนั้นกําลังจะสอบนักธรรมตรี (แม่ชีหวานใจ ชูกร สัมภาษณ วันที่6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549) ได้กราบเรียนหลวงพ่อว่า เพิ่งเรียนและกําลังท่องหนังสือนวโกวาท เตรียมสอบ
**** ธรรมตรีแต่หลวงพ่อก็สั่งว่า “เอ็งไม่ต้องเรียน ไปสอนเลย เอ็งเหลือกินแล้ว” (อัตชีวประวัติและ ผลงาน 72 ปี อาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร, 2549, น. 27 - 28) นึกถึงคําสอนของคุณยายให้ระลึกถึง ผู้มีพระคุณ ตัดสินใจเดินทางไปจังหวัดราชบุรี อายุ 21 ปีทําหน้าที่ให้คําปรึกษา แก่ปัญหาชีวิต ปัญหาเศรษฐกิจ ครอบครัวการงานและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ คําสั่งของหลวงพ่อจึงเป็นก้าวแรกของครูสอนธรรม นึกถึงคําสอนคุณยายให้แผ่เมตตา นึกถึงผู้มีพระคุณ ข้าวเม็ด เกลือก่อน ร่มไม้ชายคา ที่เรามาอยู่กับหลวงพ่อเรามาทานอาหาร ข้าวของท่าน ท่านสั่งให้เราไปแล้ว ทีนี้ถ้าเรา ไม่ไปก็อกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ คุณยายบอกคนอกตัญญูคือคนบาป มารเอาไปนรก ใจมันคิด ให้เราไปเราก็ต้องไปซี่ ทีนี้เราต้องถวายชีวิตแล้ว ส่วนมากพระจะพักที่กุฏิ ให้เราพักที่ศาลา พระให้เราไปสอนวิชชาธรรมกาย ตามบ้านนอกเวลาเขาเผาศพจะ เอากระดูกใส่ไว้ในเข่งเต็มเลย ศาลาเวลามีงานมีเทศน์เวลาวันโกนพระ ชาวบ้านเขา มาทําบุญใส่บาตร ให้เราอยููซีกหนึ่ง เห็นกระดูกเราก็มองเป็นขี้เถ้าไปนะ (แม่ชีหวานใจ ชูกร สัมภาษณ์ วันที่6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549)
**** ในช่วงเข้าพรรษาจะมีผู้มาปฏิบัติธรรม แม่ชีหวานใจข่มความกลัว นําสวดมนต์แปล ประกาศอุโบสถ สอนธรรมมะแก่ชาวบ้านคลองโพธิ์เจริญและบริเวณใกล้เคียง ชาวบ้านที่มีทุกข์ก็ ขอให้แม่ชีช่วยเหลือจนกระทั่งกํานันผู้ใหญ่ บ้านศรัทธา หลังจากกลับวัดปากน้ำก็มีผู้ตามมาปฏิบัติ และบวชชีด้วย นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาชีวิตครอบครัว เช่น ปัญหาสามีแอบมีภรรยาใหม่ซึ่ง เป็นปัญหารุนแรง แม่ชีหวานใจใช้วิชชาธรรมกายให้สติจนเกิดปัญญาแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด แต่ก็ เน้นว่าผู้ที่ปรึกษาต้องมีศรัทธาต่อแม่ชีด้วย ใครมาเขาต้องมีบุญด้วย มีบุญสื่อรู้เรื่อง ได้สติขึ้นมาก็เกิดปัญญา เช่น สามีไปมี ภรรยาน้อย เป็นปัญหาครอบครัว ภรรยารู้ก็เตรียมจะไปทําร้ายกัน เขาก็มาหาฉัน ถาม่า ไปแล้วจะจัดการสําเร็จไหม จะไปฆ่าเลยละ. . .ในฐานะที่อยู่กันมาลําบาก ยากจน เธอนี่หลอกฉัน ฉันให้คนตามไปเจอแต่เธอหลอกปฏิเสธตลอดมา เตรียมปืน เอาอะไรไป จะไปฆ่า คนแนะนําให้มาหาเราก่อนจะไปให้มันแน่นอน หน่อย ให้มันได้ เรื่องเลย ฆ่าเสียเลย นี่เขากําลังอยู่กันมีความสุขจ้างคนตามๆ นี่เสียเงินเยอะนะ. . . (แม่ชีหวานใจชูกร สัมภาษณ์ ว้นที่6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549) **** วิชชาธรรมกายเป็นความรู้เฉพาะบุคคล เป็นกระแสคลื่นและภาพสัมผัส (Sense) มองเห็นว่าาทํากรรมอย่างไรเป็นเหตุเริ่มต้น โลกนี้เป็นพลังธาตุพลังงาน สร้างสิ่งมีวิญญาณครอง ไม่มีวิญญาณครอง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แต่มนุษย์เกิดอัตตาจึงยึดว่าเป็นความจริง เรารู้ว่าเขากําลังจะเข่นฆ่ากัน ฉันต้องให้เวลาเขา เอาปี วัน เดือน มา ฉันจะพิจารณา ให้แน่นอนเลย (เน้นเสียง) ไปก็เรียกว่า ถ้าเขาไม่ตายเราก็ต้องตาย แต่ต้องทําใจนะ ให้เวลาเขา 3วัน อีก 3วัน ค่อยมา เขาต้องรอเรา ให้พิจารณาให้แม่น ๆ ฉันก็ ดู ทางใน ดูเขาว่าไอ้โมโห ความโกรธของเขาเนี่ยมันเบาบางหรือยังถ้ายังมีอยู่เราก็ขออีกสัก 7วัน อีตอนมันโกรธมันมืด พอสัก 7 วันมันก็สว่าง มันเย็นขึ้น พอ 7วันมันไม่สว่างเรา ก็ขอเวลาสัก 10 วัน วิชชาธรรมกาย คือ ตัวเมตตา พลังจิตที่บริสุทธิ์เป็นจิตวิทยา ที่ เราพูดเนี่ยเป็นจิตวิทยาที่บริสุทธิ์เหมือนโทรศัพท์มันเป็นรีโมทไง 3วัน ก็แล้ว 7วันก็ แล้ว เขายังร้อนอยู่ เราต้องขอเวลา พอสัก 10 วันนี่เจ๋งเลย เธอมาเถอะ เขาเย็นขึ้น ไม่ใช้ว่าเราดูแม่น พอเขามาเราเห็นเขาเย็นขึ้น ฉันก็จะพูดว่า คราวนี้เธอตั้งใจฟังนะ มี ตัวศรัทธาแล้ว ศรัทธาเชื่อฉันแล้ว ถ้าไปฆ่าเขาถ้าเขาไม่ตายล่ะ เขาไม่ให้เราไปฆ่าเขา อย่างเดียว เขาก็ต้องเตรียมเหมือนกัน ต้องคิดว่าอะไรมันไม่แน่นอน ถ้าจะจ้องไปฆ่า เขาเห็นเราเขาอาจจะทําก่อน นี่เขาเริ่มเปิดเครื่องรับแล้ว ฉันก็ยิงที่ส่งเรื่อย ๆ ไป ฉันไม่ขัดคอเขาละถ้าเราไปฆ่า เขาตายเราก็ติดคุกแล้วลูกจะอยู่กับใคร พ่อก็ไปทางแม่ก็ไปทาง แล้วลูกจะอยู่กับใคร เขาก็เริ่มได้สติมันเป็นพลัง เป็นปัญญา เรามีความ บริสุทธิ์ให้กับเขา ความบริสุทธิ์ของเราเนี่ยมันมีความจริงใจ ทุกอย่างมันเป็นธรรม เขาร้อนมาแต่ฉันให้แสงสว่าง เขาก็มีความกตัญญู ว่าถ้าเขาไม่เจอฉันวันนั้น เขาก็จะ ไม่มีวันนี้ต่อมาจึงเป็นเป็นกตเวที (แม่ชีหวานใจชูกร สัมภาษณ์ วันที่ 6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549) ผู้ที่มาปรึกษามักจะเป็นผู้หญิง ในการแก้ปัญหาเหล่านี้แม่ชีจะสามารถเข้าถึง รายละเอียดได้มากกว่าพระสงฆ์ แม่ชีหวานใจใช้วิชชาธรรมกายแก้ไขจนสถานการณ์ คลี่คลาย เปลี่ยนปัญหาจากร้ายกลายเป็นผลดีลูกศิษย์ยกย่องให้เป็น คุณแม่อาจารย์ ด้วยความเคารพ
4. ผลงาน ก่อตั้งสํานักปฏิบัติธรรมสวนแก้วและมูลนิธิอาจารย์หวานใจ ชูกร หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เป็นสหธรรมมิกกับพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ) เจ้าอาวาส วัดประดู่ฉิมพลีซึ่งอยู่ติดกับวัดปากน้ำมีคลองสะพานเชื่อมถึง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เกิดที่จังหวัดสมุทรสงครามบ้าน เดียวกับคุณแม่อาจารย์หลังจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ มรณภาพ คุณแม่อาจารย์ มักไปกราบและสนทนา ธรรมกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พร้อมทั้งถวายปัจจัยเสมอ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเล่าว่าวัดถ้ำสิงโตทอง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีเป็น สถานที่สัปปายะ เงียบสงบเย็น เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนา คุณแม่อาจาร์ จึงเดินทางไปปฏิบัติ ลูกศิษย์ก็ติดตามไป ต่อมาได้ถามคุณแม่อาจารย์ว่าชอบที่นี่ไหม เมื่อทราบว่าท่านชอบลูกศิษย์ก็ ประชุมกันซื้อที่ดิน 87 ไร่ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ในพ.ศ.2526 คุณแม่อาจารย์สร้างสํานัก ปฏิบัติธรรมสวนแก้ว หมู่11 ตำบลปากช่อง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ติดกับวัดถ้ำสิงห์โตทอง เขตติดต่อกับ โครงการโรงไฟฟ้าจอมบึง เป็นสาขาวัดปากน้ําภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ในระยะแรก ๆ ได้ให้ชาวบัานปลูกมันอยู่แล้วปรับพื้นที่ ต่อ น้ำ - ประปา ปลูกต้นไม้ล้อมรั้ว สร้างศาลาปฏิบัติธรรม 2 ชั้น ชื่อ ศาลารวมใจเพื่อทําพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา พ.ศ.2535 ลูกศิษย์ได้ ซื้อที่เพิ่มรวมเป็น 123 ไร่จากทุ่งโล่งไร่มันและดงอ้อยก่อตั้งเป็นสํานักปฏิบัติธรรม จําลองสถานที่หลักของวัดปากน้ำ สร้างพระพุทธรูป อาคาร วิหาร และเพิ่มเติมอีกจํานวนมาก ภายในสํานักปลูกต้นไม้ร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยกลิ่นไอของธรรมชาติโดยมีพุทธศาสนสถานและ สังเวชนียสถาน 4 ตําบล เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ศาสนาที่มีความสําคัญสร้างความเชื่อ และความเลื่อมใสแก่ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม พ.ศ.2534 คุณแม่อาจารย์ ก่อตั้งและเป็นประธานมูลนิธิ แม่ชีหวานใจ ชูกร เพื่อการสาธารณกุศลนําดอกผลไปบํารุงพระศาสนาเหมือนกับทุนมูลนิธิวัดปากน้ำ ปัจจุบันมีทรัพย์สิน 27, 225,938 บาท (อัตชีวประวัติและผลงาน 72 ปีอาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร พ.ศ.2549 น. 56) ในพ.ศ.2539 มูลนิธิได้รับโล่เชิดชูเกียรติจากสมาคมสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศ ไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นมูลนิธิดีเด่นภาคกลางจากสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในฐานะ เป็นผู้ดําเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อทํานุบํารุงระพุทธศาสนา และเป็นสาธารณประโยชน์
5. รับปริญญาคุรุศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยจอมบึง พ.ศ. 2536 คุณแม่อาจาร์ได้รับพระราชทานเสมาธรรมจักรและเกียรติบัตร ในฐานะที่ทําคุณประโยชน์ต่อพระศาสนา จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมกับรับพระราชทานปริญญาคุรุศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาการศึกษานอกระบบ จาก สถาบันมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง โดยอนุมัติจากสภาการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากสมาคมสตรีชาวพุทธ ในฐานะสตรีที่ได้ทําประโยชน์ให้แก่พุทธ ศาสนาจากสํานักงานประถมศึกษา จังหวัดสมุทรสาคร และในฐานะผู้ส่งเสริมจริยธรรมและคุณธรรม ให้แก่เยาวชน (อัตชีวประวัติและผลงาน 72 ปี อาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร พ.ศ.2542 น. 9 - น.11) ได้รับ ประกาศนียบัตรและเข็มทองเชิดชูเกียรติจากกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่ได้ สร้างที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และรูปหล่อพระมงคลเทพมุนีให้เป็นสมบัติของสถาบันราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึงอีกด้วย ในสถานภาพของแม่ชีธรรมกายที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมส่งเสริมการ ปฏิบัติธรรม และทําประโยชน์แก่สังคมอย่างต่อเนื่อวัดประดู่ฉิมพลีแม่ชีผู้อุทิศชีวิตในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คุณแม่อาจารย์ อุปถัมภ์สง์ในการ ถวายทาน เลี้ยงอาหาร ปัจจัยสี่และสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ เป็นจํานวนมาก บทบาทในด้าน การแสดงธรรมและเผยแพร่ คําสอน ในพ.ศ.2545 ได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติดีเด่นในฐานะ แม่ชีผู้อุทิศ ชีวิตในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจากองค์ การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ปัจจุบัน สอนธรรมมะแก่ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่สํานักสวนแก้ว ตอบปัญหาธรรมและจัดพิมพ์เผยแพร่ ไว้ใน นิตยสารดวงแก้ว นอกจากนั้น คุณแม่อาจารย์ยังมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมและชุมชน เป็น ผู้นําทอดผ้าป่าสามัคคีหลายๆวัดทั้งในและต่างประเทศ โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ชาวบ้าน 500 ครอบครัว/ครั้ง เป็นอย่างน้อย คณะศิษย์ มากจากสถิติผู้ร่วมโครงการปฏิบัติธรรมที่สํานักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว มีผู้มาบวชเนกขัมมะ ตามโครงการปฏบิัติธรรมที่สํานักปฏิบัติธรรมสวนแก้วตั้งแต่ พ.ศ. 2527 - พ.ศ.2548 จํานวน 26,770 คน (อัตชีวประวัติและผลงาน 72 ปีอาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร พ.ศ.2549 น. 47- น. 49) คุณแม่อาจารย์กล่าวว่า ประสบผลสําเร็จในเผยแพร่ธรรม สามารถก่อตั้งศาสนสถาน 3 แห่ง คือ สํานักปฏิบัติ ธรรมสวนแก้ว มูลนิธิอาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร และศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาสวน แก้ว จังหวัดราชบุรีเกิดจากวิชชาพระธรรมกายและความกตัญูกตเวทีของคณะศิษย์ที่ ได้รับการช่วยเหลืออาศัยคําแนะนําจากแม่ชีที่ได้ธรรมกาย ทําให้ประสบความสําเร็จ ในอาชีพก็หวนกลับมา ทําบุญ (แม่ชีหวานใจชูกร สัมภาษณ์ วันที่6 เดือนมกราคม พ.ศ.2549) สถานภาพของแม่ชีหวานใจจึงมาจากผลการปฏิบัติธรรม สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า แม่ชีสามารถเป็นผู้แนะนําแก่ปัญหา ช่วยเหลือ เ็นที่พึ่งแก่ประชาชนและได้รับการเคารพและยกย่องดังสงฆ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น