หลวงพ่อวัดไร่ขิง 02

หลวงพ่อวัดไร่ขิง 02

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

     ประวัติวัดไร่ขิง
          **วัดไร่ขิง เป็นวัดสำคัญตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำท่าจีน (เรียกอีกชื่อว่าแม่น้ำนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย สร้างโดย สมเด็จพระพุทธฒาจารย์ (พุก) มีหลวงพ่อวัดไร่ขิงซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ที่ชาวนครปฐมเคารพนับถือ เดิมเป็นวัดราษฏร์ ต่อมาจึงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่10 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2533
          **คนรุ่นเก่าได้เล่าสืบต่อกันมาว่า วัดไร่ขิงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2394 โดยพระธรรมราชานุวัตร (พุก) ชาวเมืองนครชัยศรี มณฑลนครชัยศรี (ต่อมา ท่านได้รับสถาปนาสมศักดิ์เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก)ในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร ท่านได้กลับมาสร้างวัดไร่ขิงและวัดดอนหวาย ซึ่งเป็นบ้านโยมบิดาและมารดาของท่าน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) มรณภาพเมื่อปี วอก พ.ศ.2427 รวมสิริอายุ 91ปี พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่9 เดือนเมษายน ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม10 ค่ำ เดือน5 ปีระกา พ.ศ.2428 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มาพระราชทานเพลิงศพ ณ. เมรุพิเศษวัดศาลาปูน ดังนั้น งานทุกอย่างจึงตกเป็นภาระของพระธรรมราชานุวัตร (อาจ จนฺทโชโต) เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน รูปที่6 ซึ่งเป็นหลานชายของท่าน แต่ไม่ทราบว่าท่านกลับมาปฏิสังขรณ์ วัดเมื่อใดหรือท่านอาจจะมาในปี พ.ศ.2453 ตอนที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระธรรมราชานุวัตร ก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ 75 ปี และเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนรูปที่6 ต่อจากสมเด็จพุฒาจารย์ (พุก) อย่างไรก็ตาม ในการปฏิสังขรณ์วัดไร่ขิงในสมัยท่านอยู่ประมาณปี พ.ศ.2427 หรือ พ.ศ.2453 เป็นต้นมา
          **สำหรับชื่อวัดนั้น มีเรื่องเล่าว่า พื้นที่วัดในอดีตมีชาวจีนปลูกบ้านอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากและนิยมปลูกขิง กันอย่างแพร่หลาย จนเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านหรือชุมชนในแถบนี้ว่า ไร่ขิง ต่อมา เมื่อมีชุมชนหนาแน่นมากยิ่งขึ้นจึงได้มีการสร้างวัดเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ดังนั้น วัดจึงได้ชื่อตามชื่อของหมู่บ้านหรือชุมชนว่า วัดไร่ขิง
          **ในราวปี พ.ศ.2446 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหารนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เสด็จตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน 
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้เสด็จมาที่วัดไร่ขิง และทรงตั้งชื่อวัดใหม่ว่า วัดมงคลจินดาราม ทั้งทรงใส่วงเล็บชื่อเดิมต่อท้ายจึงกลายเป็น วัดมงคลจินดาราม (ไร่ขิง) เมื่อเวลาผ่านพ้นมานานและคงเป็นเพราะความกร่อนของภาษาจีนทำให้วงเล็บหายไป คงเหลือเพียงคำว่า ไร่ขิง ต่อท้ายคำว่า มงคลจินดาราม จึงต้องเขียนว่า วัดมงคลจินดาราม - ไร่ขิง แต่ในทางราชการยังคงใช้ชื่อเดิมเพียงว่า วัดไร่ขิง  สืบมาจนทุกวันนี้
     ประวัติหลวงพ่อวัดไร่ขิง
           **องค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4ศอก 2นิ้วเศษ สูง 4ศอก 16นิ้วเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5ชั้น เบื้องหน้าผ้าทิพย์ปูทอดลงมาองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร (ทิศเหนือ) ซึ่งหน้าวัดมีแม่น้ำนครชัยศรีหรือแม่น้ำท่าจีนไหลผ่าน จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิงได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูน โดยนำล่องมาทางน้ำด้วยการทำแพไม้ไผ่หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏิมากรณ์ เมื่อถึงหน้าวัดไร่ขิง จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ ตรงกับวันขึ้น 15ค่ำ เดือน5 ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดีจึงมีประชาชนจำนวนมากมาชุมนุมกัน ในขณะที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นจากแพ สู่ปะรำพิธีได้เกิดอัศจรรย์แสงแดดที่แผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์ก็บังเกิดมีเมฆดำมืดทะมึน ลมปั่นป่วน ฟ้าคะนอง และบันดาลให้มีฝนโปรยลงมาทำให้เกิดความเย็นฉ่ำและเกิดความปิติ ยินดีกันโดยทั่วหน้า ประชาชนที่มาต่างก็พากันตั้งจิตรอธิษฐานเป็นหนึ่งเดียวกัน ว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิงจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อนร้ายคลายความทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนที่เมทนีดลให้ชุ่มฉ่ำ เจริญงอกงามด้วยธัญญาหารฉะนั้น ดังนั้น วันดังกล่าวที่ตรงกับวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทย ทางวัดจึงได้ถือเป็นวันสำคัญ และได้จัดให้มีงานเทศกาลนมัสการปิดทองประจำปีหลวงพ่อวัดไร่ขิง สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ตำนานหลวงพ่อวัดไร่ขิงนั้นจากคำบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือที่เรียกว่า มุขปาฐะ มีหลายตำนาน ดังนี้
          **ตำนานที่1 ครั้งเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(พุก) ชาวเมืองนครชัยศรี ได้มาตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน ได้เข้าไปในพระอุโบสถวัดไร่ขิง หลังจากกราบพระประธานแล้ว มีความเห็นว่าพระประธาน มีขนาดเล็กเกินไป จึงบอกให้ท่านเจ้าอาวาสพร้อมชาวบ้านไปอัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวางลงบนแบบไม้ไผ่และนำล่องมาตามลำน้ำและอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึ้น 15ค่ำ เดือน 5วันสงกรานต์พอดี
          **ตำนานที่2 วัดไร่ขิงสร้างเมื่อปีกุน พุทธศักราช2394 ตรงกับปีสุดท้ายในรัชกาลที่3 ต้นปีในรัชการที่4 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวเมืองนครชัยศรี ในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ พระธรรมราชานุวัตร ปกครองอยู่ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร 
ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้กลับมาสร้าง วัดที่บ้านเกิดของตนที่ อำเภอไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จแล้วจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูป สำคัญองค์หนึ่งจากกรุงเก่า (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) มาเพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถแต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ท่านได้มรณภาพเสียก่อน ส่วนงานที่เหลืออยู่พระธรรมราชานุวัตร (อาจ จนฺทโชโต) หลานชายของท่านจึงดำเนินงานต่อจนเรียบร้อย และบูรณะดูแลมาโดยตลอดจนถึงแก่มรณภาพ
          **ตำนานที่3 ตามตำนานเป็นเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับมีพระพุทธรูปลอยน้ำมา 5องค์ ก็มี 3องค์ก็มีโดยเฉพาะในเรื่องที่เล่าว่ามี 5องค์นั้น ตรงกับคำว่า ปัญจภาคี ปาฏิหาริยกสินธุ์โน  ซึ่งได้มีการเล่าเป็นนิทานว่า ในกาลครั้งหนึ่ง มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมากได้พร้อมใจกันตั้งสัตย์อธิษฐานว่า เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไปแล้ว ก็จะขอสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้ได้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงพระนิพานครั้งพระอริยบุคคลทั้ง 5องค์ ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทั้ง 5องค์ จะมีความปรารถนาที่จะช่วยคนทางเมืองใต้ที่อยู่ติดแม่น้ำให้ได้พ้นทุกข์ จึงได้พากันลอยน้ำลงมาตามลำน้ำทั้ง 5สาย เมื่อชาวบ้านตามเมืองที่อยู่ริมแม่น้ำเห็นเข้า จึงได้อัญเชิญและประดิษฐานไว้ตามวัดต่างๆ มีดังนี้
          **พระพุทธรูปองค์ที่1 ลอยไปตามแม่น้ำบางปะกง ขึ้นสถิตที่วัดโสธรวรวิหาร (เมืองแปดริ้ว) ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกกันว่า หลวงพ่อโสธร
          **พระพุทธรูปองค์ที่2 ลอยไปตามแม่น้ำนครชัยศรี (ท่าจีน) ขึ้นสถิตที่ วัดไร่ขิง (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
 เรียกกันว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง
          **พระพุทธรูปองค์ที่3 ลอยไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสถิตที่วัดบางพลี เรียกกันว่า หลวงพ่อวัดบางพลี  ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แต่บางตำนานก็ว่า หลวงพ่อวัดบางพลีเป็นองค์แรกในจำนวน 5องค์ จึงเรียกว่า หลวงพ่อโต วัดบางพลี 
          **พระพุทธรูปองค์ที่4 ลอยไปตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นสถิตที่วัดเพชรสมุทรวรวิหารหรือวัดบ้านแหลม (เมืองแม่กลอง) ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่าหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
          **พระพุทธรูปองค์ที่5 ลอยไปตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นสถิตที่วัดเขาตะเครา (เมืองเพชรบุรี) ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า หลวงพ่อวัดเขาตะเครา
          **ส่วนตำนานของเมืองนครปฐมนั้นเล่าว่า มีพระ 3องค์ ลอยน้ำมาพร้อมกัน และแสดงปาฏิหาริย์จะเข้าไปยังบ้านศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ จึงได้เรียกตำบลนั้นว่า บางพระ พระพุทธรูป 3องค์ลอยไปจนถึงปากน้ำท่าจีนแล้วกลับลอยทวนน้ำขึ้นมาใหม่ จึงเรียกตำบลนั้นว่า สามประทวน หรือ สัมปทวน แต่เนื่องจากตำบลที่ชาวบ้านพากันไปชักพระขึ้นฝั่งเพื่อขึ้นประดิษฐาน ณ หมู่บ้านของตน แต่ทำไม่สำเร็จ ต้องเปียกฝนและตากแดดตากลมจึงได้ชื่อว่า บ้านลานตากฟ้า และ บ้านตากแดด ในที่สุดพระพุทธรูปองค์แรกจึงยอมสถิต ณ.วัดไร่ขิง (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เรียกกันว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง  ส่วนองค์ที่2 ลอยน้ำไปแล้วสถิตขึ้นที่ วัดบ้านแหลม ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และองค์ที่3 ลอยตามน้ำไปตามจังหวัดเพชรบุรี แล้วขึ้นสถิตที่วัดเขาตะเครา  (เมืองเพชรบุรี) ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม  เรียกว่า หลวงพ่อวัดเขาตะเครา
เขียนเมื่อวันที่1 เดือนกรกฏาคม พ.ศ.2564

โทร 0983699890 เบอร์ไลน์  0805855611  Line ID vaya07 Facebook พรชัย เลาวะยานนท์
นายพรชัย เลาวะยานนท์
ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี เพชรเกษม2 พุทธมณฑลสาย3 ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 020 - 1 - 33934 - 0
ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 หนองแขม บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 191 - 0 - 68235 - 7  
✱พระทุกองค์ที่ระบุราคาไว้ในร้านออนไลน์นี้ ยังไม่คิดรวมราคาค่าบริการส่ง EMS อีก 50 บาท✱


G103 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิงหลังพระประจำวัดศุกร์ เนื้อกะไหล่ทองลงยาสีส้ม วัดไร่ขิง (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G104 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อกะไหล่ทองลงยาสีแดง วัดไร่ขิง ปี2535 (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G104 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อกะไหล่ทองลงยาสีเขียว วัดไร่ขิง ปี2535 (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G105 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อกะไหล่ทอง วัดไร่ขิง ปี2535 (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G106 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง ปี2535 (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G107 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G108 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G109 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G107 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง ปี2543  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G107 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง ปี2549  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท
G107 เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง เนื้อทองแดง วัดไร่ขิง ปี2538/  (เมืองนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 600 บาท


ความคิดเห็น